อ่านเฉพาะบทความของบล็อคในรูปแบบพิเศษ ...
sidebar / flipcard / mosaic / snapshot / timeslide

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ข้อบังคับกระทรวงกลาโหม
ว่าด้วยสารวัตรทหาร
พ.ศ. ๒๕๑๙

------------

                  โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหารให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงออกข้อบังคับไว้   ดังต่อไปนี้.-
            ข้อ ๑. ข้อบังคับนี้เรียกว่า " ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ.ศ.๒๕๑๙ "
            ข้อ ๒. ให้ยกเลิกข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสารวัตรทหาร พ.ศ. ๒๔๙๒ และบรรดาข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง คำชี้แจงอื่น ๆ ในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในข้อบังคับนี้ หรือที่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้
            ข้อ ๓. ในข้อบังคับนี้
                      ๓.๑ คำว่า " ทหารสารวัตร " หมายถึงทหารเหล่าทหารสารวัตรที่บรรจุในอัตรากำลัง ของหน่วยต่าง ๆ
                      ๓.๒ คำว่า " สารวัตรทหาร " หมายถึงทหารสารวัตรหรือทหารเหล่าอื่นหรือพรรคอื่น ซึ่งปฏิบัติหน้าที่สารวัตรทหารตามคำสั่งของผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหาร
                      ๓.๓ คำว่า " ผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหาร " หมายถึงผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร ที่มีทหารสารวัตรอยู่ในบังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดสารวัตรทหารตามที่เหล่าทัพกำหนด ในกรณีไม่มีทหารสารวัตรอยู่ในบังคับบัญชา เป็นผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารได้ภายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ หรือตามอำนาจที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือแบบธรรมเนียมของทหาร
            ข้อ ๔. สารวัตรทหารให้จัดจากทหารสารวัตร ในกรณีไม่มีทหารสารวัตรบรรจุอยู่ในอัตรากำลัง ของหน่วยหรือในเหล่าทัพใด ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารซึ่งมีอำนาจหน้าที่จัดสารวัตรทหารตามที่เหล่าทัพกำหนด จัดทหารเหล่าอื่นหรือพรรคอื่นเป็นสารวัตรทหารได้
            ข้อ ๕. การแต่งกายของสารวัตรทหารในขณะปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตาม กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ และแบบธรรมเนียมของทหารที่ว่าด้วยการนั้น
            ข้อ ๖. เพื่อให้การรักษาระเบียบวินัยดำเนินการไปโดยเคร่งครัดรวมถึงการรักษาความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดี ให้สารวัตรทหารมีหน้าที่ดังนี้
                      ๖.๑ สอดส่องตรวจตราให้ทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม อยู่ในระเบียบวินัยความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
                      ๖.๒ ว่ากล่าว  ตักเตือน และจับกุม  ทหาร  ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่กระทำผิด
                      ๖.๓ สืบสวนสอบสวนคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหาร
                      ๖.๔ ควบคุมการจราจรในกิจการทหาร
                      ๖.๕ รักษาความปลอดภัยทางวัตถุและอารักขาบุคคลสำคัญ
                      ๖.๖ ปฏิบัติการเกี่ยวกับการเรือนจำทหาร และเชลยศึก ทหารพลัดหน่วย พลเรือนผู้ถูกกักกันในยามสงคราม ตามที่กฎหมาย กฎ ข้อบังคับกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
                      ๖.๗ กำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมในวงการทหาร
                      ๖.๘ หน้าที่อื่นตามที่กระทรวงกลาโหมหรือผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารจะกำหนด
            ข้อ ๗. สารวัตรทหารมีอำนาจสอบสวนคดีอาญา ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารได้ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง  ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหาร
            ข้อ ๘. สารวัตรทหาร มีอำนาจที่จะปฏิบัติต่อ   ทหาร  ข้าราชการกลาโหมพลเรือน  และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม  ผู้ไม่อยู่ในระเบียบวินัย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีซึ่งอยู่ภายนอกที่ตั้งหน่วยทหารหรือสถานที่ทำงานตามควรแก่กรณีดังนี้
                      ๘.๑ ว่ากล่าวตักเตือน
                      ๘.๒ จับกุม
                      ๘.๓ ตรวจค้นผู้ถูกจับกุมเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีสิ่งของที่ผิดกฎหมายหรือเพื่อใช้ในการกระทำที่ผิดกฎหมาย ถ้าผู้ถูกจับกุมเป็นหญิงให้หญิงอื่นเป็นผู้ค้น
                      ๘.๔ ยึดสิ่งของตาม ๘.๓ หรือสิงของที่อาจเป็นภัยอันตรายหรือที่ใช้เป็นพยานหลักฐานในการกระทำผิดนั้นได้
            ข้อ ๙. ในการจับกุม   สารวัตรทหารต้องแจ้งเหตุที่จะจับกุมให้ผู้จะต้องถูกจับกุมทราบ  การจับกุม ให้กระทำโดยละม่อม ถ้าจำเป็นจะต้องใช้เครื่องพันธนาการ หรือใช้อาวุธเพื่อป้องกันตน ก็ให้กระทำได้แต่ต้อง ไม่เกินสมควรแก่เหตุ
            ข้อ ๑๐. เมื่อสารวัตรทหารจับกุมผู้ใดแล้ว ให้ปฏิบัติดังนี้
                      ๑๐.๑ รายงานให้ผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารทราบโดยเร็ว
                      ๑๐.๒ ผู้ถูกจับกุมสังกัดอยู่ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ใน่เขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของหน่วยสารวัตรทหารที่จับกุม  ให้นำตัวผู้ถูกจับกุมส่งหน่วยทหารต้นสังกัดของผู้นั้น หรือรีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกจับกุมทราบโดยเร็วเพื่อรับตัว   ในกรณีนี้ให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้บังคับบัญชามอบหมายไปรับตัวผู้ถูกจับกุมนั้นโดยเร็วและต้องไม่เกิน ๒๔ ชั่วโมง นับแต่เวลาที่ได้รับแจ้ง
                      ๑๐.๓ ผู้ถูกจับกุมสังกัดอยู่ในหน่วยทหารที่ตั้งอยู่นอกเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบของหน่วยสารวัตรทหารที่จับกุมให้รีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกจับกุมทราบโดยเร็วเพื่อรับตัวไปในกรณีนี้ให้ผู้บังคับบัญชา หรือผู้ที่บังคับบัญชามอบหมายไปรับตัวผู้ถูกจับกุมนั้นโดยเร็ว และต้องไม่เกิน ๗ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
                      ๑๐.๔ ในระหว่างที่ยังไม่มีการรับตัว  ให้สารวัตรทหารควบคุม หรือจัดการเท่าที่จำเป็น  เพื่อป้องกันมิให้ผู้ถูกจับกุมหลบหนี
            ข้อ ๑๑. ในเขตพื้นที่ใดมีหน่วยทหารต่างเหล่าทัพตั้งอยู่เมื่อเห็นเป็นการสมควรนผู้มีอำนาจสั่งใช้สารวัตรทหารในเขตพื้นที่นั้นอาจจัดสารวัตรทหารร่วมขึ้นปฏิบัติภารกิจในบังคับบัญชาของนายทหารเหล่าทัพใดก็ได้ ทั้งนี้ให้ทำความตกลงกันเป็นหนังสือ
            ข้อ ๑๒. สารวัตรทหารไม่มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการใด ๆ ต่อบุคคลอื่นจอกจากทหาร ข้าราชการกลาโหมพลเรือน และคนงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมซึ่งกระทำความผิด เว้นแต่จะได้รับการร้องขอจากพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจให้ร่าวมือด้วยในเหตุผลอันสมควร หรือเป็นการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
            ข้อ ๑๓. ให้กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ออกระเบียบปลีกย่อยเพื่อปฏิบัติการ ให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ได้
ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๙
(ลงชื่อ) พลเอก ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
( ทวิช เสนีวงศ์ ณ อยุธยา )
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น